โรคมะเร็งโพรงหลังจมูก หรือเรียกย่อว่า เอ็นพีซี (Nasopharyngeal carcinoma, NPC) เป็นโรคมะเร็งพบบ่อยโรคหนึ่งของคนไทย ถึงแม้ไม่ติด 1 ใน 10 ของมะเร็งที่พบบ่อย

โรคมะเร็งโพรงหลังจมูกเกิดจากอะไร? มีปัจจัยเสี่ยงไหม?

สาเหตุที่แน่นอนของการเกิดโรคมะเร็งโพรงหลังจมูกยังไม่ทราบ แต่แพทย์เชื่อว่า น่าเกิดจากหลายๆสาเหตุร่วมกัน โดยพบมีปัจจัยเสี่ยง คือ
-เชื้อชาติ เพราะพบโรคได้สูงในคนจีนตอนใต้ ไต้หวัน ในคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในคนพื้นเมืองในรัฐอะลาสกาของสหรัฐอเมริกา
-พันธุกรรม เพราะพบโรคได้สูงในคนบางเชื้อชาติดังกล่าวแล้ว และยังพบโรคได้สูง ขึ้นในคนที่มีครอบครัวเป็นโรคนี้
-อาจจากโพรงหลังจมูกติดเชื้อไวรัสชนิด อีบีวี (EBV, Ebstein-Barr virus)
-อาจจากสิ่งแวดล้อม เช่น การได้รับควันบางชนิดต่อเนื่อง เพราะพบว่า คนจีนตอนใต้มักหุงหาอาหารในบ้าน
-อาจจากการกินปลาเค็ม หรืออาหารหมักดองเป็นประจำ เช่น เต้าเจี้ยว ซึ่งเป็นอาหารประจำของคนจีนตอนใต้

โรคมะเร็งโพรงหลังจมูกมีอาการอย่างไร?

ไม่มีอาการเฉพาะของโรคมะเร็งโพรงหลังจมูก อาการจะคล้ายคลึงกับโรคต่างๆทางระบบ หู คอ จมูก โดยอาการพบบ่อยของโรคมะเร็งโพรงหลังจมูก คือ
-หูอื้อด้านเดียว ซ้าย หรือขวาก็ได้ ขึ้นกับว่าเกิดโรคด้านใด
-มีอาการคล้ายเป็นโรคหวัด หรือ คล้ายโรคภูมิแพ้ เรื้อรัง
-มีเลือดกำเดาออกบ่อย อาจเกิดเพียงจากจมูกด้านเดียวขึ้นกับว่ามีโรคเกิดด้านใด หรือทั้งสองด้าน
-มีต่อมน้ำเหลืองลำคอโต คลำได้ อาจข้างเดียว หรือทั้งสองข้างของลำคอ อาจเพียงต่อมเดียว หรือหลายๆต่อม ต่อมน้ำเหลืองอาจโตได้มากๆถึง 10 เซนติเมตร
-เมื่อโรคลุกลามเข้าเส้นประสาทสมอง หรือเข้าสมอง มักปวดศีรษะเรื้อรัง อาจมอง เห็นภาพซ้อน ตาเหล่ หน้าชา มักเกิดด้านเดียว ซ้ายหรือขวาก็ได้ขึ้นกับว่าเกิดโรคด้านใด

แพทย์วินิจฉัยโรคมะเร็งโพรงหลังจมูกได้อย่างไร?

แพทย์วินิจฉัยโรคมะเร็งโพรงหลังจมูกได้จาก ประวัติอาการ การตรวจร่างกาย การตรวจโพรงหลังจมูก การคลำต่อมน้ำเหลืองลำคอ และอาจตรวจภาพโพรงหลังจมูกด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือเอมอาร์ไอ แต่ที่วินิจฉัยได้แน่นอนคือ การตัดชิ้นเนื้อจากก้อนเนื้อในโพรงหลังจมูกเพื่อการตรวจทางพยาธิวิทยา

ภายหลังเมื่อทราบว่าเป็นโรคมะเร็งโพรงหลังจมูกแล้ว จะมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อประเมินระยะโรค และสุขภาพผู้ป่วย ได้แก่ตรวจเลือดซีบีซี (CBC) การตรวจปัสสาวะ การตรวจเลือดดูค่าน้ำตาล (โรคเบาหวาน) ดูการทำงานของ ตับ ไต และค่าเกลือแร่ตรวจภาพโพรงหลังจมูก และลำคอด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือเอมอาร์ไอดูการลุกลามของโรคเมื่อยังไม่ได้ตรวจในช่วงวินิจฉัยโรค ตรวจเอกซเรย์ปอด ดูโรคของปอดและหัวใจและดูการแพร่กระจายของโรคสู่ปอด อาจมีการตรวจภาพตับด้วยอัลตราซาวด์ และการตรวจภาพกระดูกทั้งตัวที่เรียกว่า การสแกนกระดูก (Bone scan) ทั้งนี้ขึ้นกับความรุนแรงของโรค อาการผู้ป่วย และดุลพินิจของแพทย์

โรคมะเร็งโพรงหลังจมูกมีกี่ระยะ?

โรคมะเร็งโพรงหลังจมูกมี 4 ระยะเช่นเดียวกับโรคมะเร็งอื่นๆ และแต่ละระยะยังอาจแบ่งย่อยได้อีก ทั้งนี้เพื่อแพทย์โรคมะเร็งใช้ช่วยเป็นแนวทางในการรักษาและในการศึกษา ซึ่งทั้ง 4 ระยะหลัก คือ

ระยะที่ 1โรคมะเร็งลุกลามอยู่ในโพรงหลังจมูก และ/หรือลุกลามเข้าโพรง/รูจมูก

ระยะที่ 2โรคมะเร็งลุกลามเข้าเนื้อเยื่อคอหอย และ/หรือลุกลามเข้าต่อมน้ำเหลืองลำ คอเพียงด้านเดียว กี่ต่อมก็ได้ แต่ละต่อมมีขนาดไม่เกิน 6 เซนติเมตร (ซม.)

ระยะที่ 3โรคมะเร็งลุกลามเข้าไซนัสต่างๆ และ/หรือกระดูกฐานสมอง และ/หรือ ต่อม น้ำเหลืองทั้งสองข้างของลำคอแต่ละต่อมมีขนาดไม่เกิน 6 ซม.

ระยะที่ 4โรคมะเร็งลุกลามเข้าประสาทสมอง และ/หรือสมอง และ/หรือเข้าเบ้าตา และ /หรือเข้าคอหอยส่วนรอบกล่องเสียง และ/หรือเข้าต่อมน้ำเหลืองลำคอ ทั้งนี้ต่อมน้ำเหลืองต้องมีขนาดโตเกิน 6 ซม. และ/หรือเข้าต่อมน้ำเหลืองเหนือกระดูกไหปลาร้า ขนาดใดก็ได้ และ/หรือ มีโรคแพร่กระจายเข้ากระแสโลหิต/กระแสเลือด ซึ่งเมื่อแพร่กระจาย มักแพร่กระจายสู่กระ ดูก ปอด ตับ และ/หรือสมอง

โรคมะเร็งโพรงหลังจมูกรักษาอย่างไร?

แนวทางการรักษาหลักของโรคมะเร็งโพรงหลังจมูก คือ รังสีรักษา ซึ่งในโรคระยะที่ 1 อาจเป็นการให้รังสีรักษาเพียงวิธีการเดียว (มีได้ทั้งการฉายรังสี และอาจร่วมกับการใส่แร่) แต่เมื่อโรคลุกลามออกนอกโพรงหลังจมูกแล้ว ไม่ว่าโรคจะอยู่ในระยะใด การรักษาคือ รังสีรักษา ร่วมกับยาเคมีบำบัด ส่วนยารักษาตรงเป้า ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษา และยายังมีราคาแพงมหาศาลเกินกว่าผู้ป่วยทุกคนจะเข้าถึงยาได้

อนึ่ง ก่อนการให้รังสีรักษา ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลช่องปากและฟันจากทันตแพทย์ก่อน และถ้ามีฟันผุ ทันตแพทย์จะถอนฟันซี่นั้น และต้องรอให้แผลถอนฟันหายก่อนจึงจะเริ่มให้รังสีรักษาได้ ทั้งนี้เพื่อลดโอกาสถอนฟันจากฟันผุระหว่างการรักษาทางรังสีรักษาและภายหลังครบการรักษาทางรังสีรักษาแล้ว เพราะกรณีเช่นนี้ แผลถอนฟันมักหายได้ยาก มักก่อการอักเสบเรื้อรังของช่องปากและกระดูกกรามได้สูง ส่งผลถึงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย และอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อจนเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้

มีผลข้างเคียงจากการรักษาโรคมะเร็งโพรงหลังจมูกอย่างไร?

ผลข้างเคียง/ภาวะแทรกซ้อนจากการรักษาโรคมะเร็งโพรงหลังจมูกขึ้นกับวิธีรักษา โดยผลข้างเคียงจะสูงขึ้นเมื่อ

– ใช้หลายวิธีรักษาร่วมกัน

– มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง

– สูบบุหรี่

– ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

– และในผู้สูงอายุ

รังสีรักษา คือ ผลข้างเคียงต่อผิวหนัง และเนื้อเยื่อส่วนได้รับรังสี (การดูแลผิวหนัง และผลข้างเคียงต่อผิวหนังบริเวณฉายรังสีรักษา และการดูแลตนเองเมื่อฉายรังสีรักษาบริเวณศีรษะและลำคอ)

ยาเคมีบำบัด คือ อาการ คลื่นไส้ อาเจียน ผมร่วง ภาวะซีด ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ จึงส่ง ผลให้เลือดออกได้ง่าย และการติดเชื้อจากภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ (ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำจากเคมีบำบัด และ/หรือรังสีรักษา:การดูแลตนเอง)

ยารักษาตรงเป้า ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากยารักษาตรงเป้า คือ การเกิดสิวขึ้นทั่วตัวรวมทั้งใบหน้า และยารักษาตรงเป้าบางชนิดอาจก่อให้เกิดภาวะเลือดออกได้ง่าย แผลติดยากเมื่อเกิดบาดแผล และอาจเป็นสาเหตุให้ผนังลำไส้ทะลุได้

โรคมะเร็งโพรงหลังจมูกรุนแรงไหม?

โรคมะเร็งโพรงหลังจมูกเป็นโรคมะเร็งที่รุนแรงปานกลาง ทั้งนี้โอกาสรักษาได้หายขึ้นกับ ระยะโรค การดื้อต่อรังสีรักษาและ/หรือ ต่อยาเคมีบำบัด ของเซลล์มะเร็ง อายุ และสุขภาพของผู้ป่วย

โดยทั่วไปอัตราอยู่รอดที่ 5 ปีภายหลังการรักษาครบแล้ว

ในโรคระยะที่ 1 ประมาณ 70-80%

ระยะที่ 2 ประมาณ 60-70%

ระยะที่ 3 ประมาณ 40-60%

ระยะที่ 4 ชนิดโรคยังไม่แพร่กระจาย ประมาณ 0-40%

ระยะที่ 4 ชนิดมีโรคแพร่กระจายแล้ว ประมาณ 0-5%

มีวิธีตรวจคัดกรองโรคมะเร็งโพรงหลังจมูกไหม? ควรพบแพทย์เมื่อไร?

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีในการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งโพรงหลังจมูกตั้งแต่ยังไม่มีอาการ ดังนั้นการดูแลตนเองที่ดีที่สุดในขณะนี้ คือ การรีบพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติดังกล่าวแล้วในหัวข้อ อาการ เพื่อการวินิจฉัยและรักษาโรคแต่เนิ่นๆ

ป้องกันโรคมะเร็งโพรงหลังจมูกอย่างไร?

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องกันโรคมะเร็งโพรงหลังจมูก แต่การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงดังที่ได้กล่าวแล้วในหัวข้อ สาเหตุ ที่หลีกเลี่ยงได้ อาจช่วยลดโอกาสเกิดโรคลงได้บ้าง

ที่มา :- haarmor.com