วัคซีน คือตัวอย่างเชื้อของโรคที่ใช้ใส่เข้าไปในร่างกายของคนเราเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคนั้นขึ้นมา ส่วนใหญ่เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ถาวรตลอดชีวิต วัคซีนอาจจะเป็นโมเลกุลจำลองที่หน้าตาเหมือนเชื้อโรค หรืออาจจะเป็นตัวเชื้อโรคจริงๆที่ทำให้ตายหรือทำให้อ่อนแรงลงไปแล้วก็ได้

ผลดีของวัคซีน

คือเป็นวิธีป้องกันโรคที่ดีที่สุด การลงทุนฉีดวัคซีน ถือว่าเป็นการลงทุนทางด้านสุขภาพที่คุ้มค่าที่สุด รองลงมาจากการลงทุนให้มีน้ำสะอาดไว้ดื่ม โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน ส่วนใหญ่เป็นโรคที่เป็นแล้วมีความรุนแรง เมื่อเป็นแล้วมักรักษายาก เช่นโรคบาดทะยักในผู้สูงอายุ บางโรคทำให้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เช่นโรคไข้หวัดใหญ่และปอดบวมในผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคเรื้อรังอยู่ก่อน บางโรคหากเป็นแล้วอาจกลายเป็นโรคเรื้อรังหรือจบลงด้วยการเป็นมะเร็ง เช่นโรคไวรัสตับอักเสบบี. โรคติดเชื้อไวรัสเอ็ชพีวี. เป็นต้น

ทำไมเป็นผู้ใหญ่วัย 40+ แล้วต้องมาฉีดวัคซีน?

คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าวัคซีนมีไว้สำหรับเด็กเท่านั้น ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด ความเข้าใจดังกล่าวทำให้โรคบางโรคซึ่งไม่เป็นกับเด็กแล้ว เพราะมีวัคซีนคุ้มกัน แต่ไปเป็นกับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุแทน

แผนวัคซีนตลอดชีพรายบุคคล

การฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูตลอดชีวิต และเป็นเรื่องที่จำเพาะเจาะจงเฉพาะบุคคล จึงต้องมีแผนวัคซีนตลอดชีพเฉพาะตัวของแต่ละคน โดยวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆเกี่ยวกับความต้องการวัคซีนที่แตกต่างกัน อันได้แก่

เพศ เพราะวัคซีนบางชนิดใช้เฉพาะเพศหญิง เช่นวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) วัคซีนบางชนิดเช่นวัคซีนหัดเยอรมัน ไม่เหมาะกับสตรีมีครรภ์

อายุ เพราะวัคซีนบางตัว ให้เฉพาะบางอายุตามความเสี่ยงที่มาพร้อมกับวัย เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่จะให้เฉพาะคนทั่วไปที่อายุ 50 ปีขึ้นไป วัคซีนปอดบวมให้เฉพาะคนอายุ65 ปีขึ้นไป เป็นต้น

อาชีพ เพราะบางอาชีพต้องฉีดวัคซีนบางอย่าง เช่นสัตวแพทย์ต้องฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า

การใกล้ชิดกับสตรีมีครรภ์ เช่นไข้หวัดใหญ่นี้อันตรายกับสตรีมีครรภ์ยิ่งนัก ผู้ใกล้ชิดสตรีมีครรภ์ก็ควรจะได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพื่อป้องกันไม่ให้เอาโรคไปถึงตัวคนมีครรภ์

การเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งอาจต้องเจาะลึกว่าไปประเทศไหน เพราะมีกฎหมายวัคซีนแตกต่างกัน เช่นจะไปอัฟริกาต้องฉีดวัคซีนป้องกันไข้เหลือง จะไปแสวงบุญเมกกะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

การเข้าหอพักในมหาวิทยาลัย หรือเข้าค่ายทหาร เพราะสภาพแออัดอย่างนั้นต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคบางโรคที่ชาวหอชอบเป็นกัน เช่นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือหัด เป็นต้น

การเป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชรา หรือเนอร์สซิ่งโฮม ถ้าเป็นก็ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคยอดนิยมในบ้านพักคนชรา เช่นโรคปอดบวม โรคไข้หวัดใหญ่

การมีหรือไม่มีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตับอักเสบบี. เนื่องโรคนี้เป็นโรคที่ก่อความเสียหายรุนแรง อีกทั้งประเทศไทยเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ ดังนั้นคนไทยทุกคนจึงควรได้รับวัคซีนป้องกันโรคนี้ ยกเว้นผู้ที่เคยตรวจเช็คเลือดและพบว่ามีภูมิคุ้มกันโรคนี้แล้ว

การมีความเสี่ยงต่อไวรัสตับอักเสบเอ.เป็นพิเศษ เช่นเป็นผู้ชายโฮโมเซ็กซ่วล หรือเป็นโรคตับเรื้อรัง หรือเป็นผู้ติดยาเสพย์ติด หรือมีโรคเลือดแข็งตัวผิดปกติ หรือจะเดินทางไปยังบ้านเมืองที่มีโรคนี้มาก ก็ควรจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้

การไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน มีความสำคัญเพราะถ้าไม่เคยเป็น ควรต้องฉีดวัคซีนอีสุกอีใส เพราะโรคนี้หากมาเป็นเอาตอนอายุมากจะมีความรุนแรง

การเลี้ยงสุนัข ปัจจุบันนี้สถานเสาวภาได้นำหลักการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าล่วงหน้า (Pre Exposure) ขององค์การอนามัยโลก มาแนะนำให้คนไทยเลือกใช้ได้แล้ว โดยแนะนำให้ฉีดวัคซีนล่วงหน้าสำหรับคนที่เสี่ยง

การมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ มากกว่าปกติ ซึ่งต้องฉีดวัคซีนป้องก้นโรคมากกว่าคนทั่วไป เช่นเป็นมะเร็ง หรือให้ยาเคมีบำบัด

การใช้ยาแอสไพริน กรณีเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เพราะเด็กที่ทานยาแอสไพรินประจำมีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดปกติของสมองเมื่อได้วัคซีนบางตัวได้ แพทย์จึงต้องมีข้อมูลนี้ก่อนตัดสินใจให้วัคซีน

การเป็นโรคที่หากแพ้วัคซีนแล้วอาจมีความรุนแรง เช่น เป็นหอบหืด หรือมีโรคของกล้ามเนื้อหรือระบบประสาทที่ทำให้ทางเดินลมหายใจบวม หรือมีปัญหาต่อการหายใจหรือการกลืน แพทย์จำเป็นต้องใช้ข้อมูลนี้ประกอบการวางแผนฉีดวัคซีนเฉพาะบุคคลด้วย

ข้อมูลโดย ศูนย์ตรวจสุขภาพ เครือ รพ.พญาไท